วันอาทิตย์ที่ผ่านมามีการรวมตัวของ Art Gallery กันเพื่อจัดงาน Bangkok Underground Film Fest ขึ้น ณ Gallery Ver (ซอยนราธิวาส 22) และหนึ่งในไฮไลต์ของงานที่จะปฏิเสธไม่ได้เลยซึ่งก็คือการฉายหนังเรื่อง "My Buddha Is Punk" และการแสดงสดของ The Rebel Riot วง Street Punk (Oi) จากประเทศพม่าเพื่อนบ้านของเราที่ทางวงมีอุดมการณ์ต่อต้านการเมืองระบบเผด็จการที่ชัดเจนมาก โดยประเทศพม่านั้นมีรูปแบบการเมืองการปกครองแบบเผด็จการทางทหาร (คุ้นเคยกันไหม เหมือนประเทศไหนนะ??) และความขัดแย้งทางศาสนาที่กำลังเป็นที่จับตามองของโลกอีกประเทศหนึ่งเลยทีเดียว "My Buddha Is Punk" หนังสารคดี (Documentary) กำกับโดย Andreas Hartmann ที่นำเสนอถึงชีวิตของวัยรุ่นพั้งค์ในพม่าซึ่งผ่านความอัดอั้นตันใจจากการปกครองรูปแบบเผด็จการทางทหารที่ทำให้การพัฒนาประชาธิปไตยล้าหลังหรือแม้กระทั่งการต่อสู้กับความกบฎในตัวเองและคำดูหมิ่นเหยียดหยามจากคนรอบข้างที่เต็มไปด้วยการถากถางและดูแคลน พวกเขาพยายามแสดงออกในทุกด้านว่าวัฒนธรรมพั้งค์นั้นมีความคิด มีแบบแผน มีความเข้าใจในสิ่งที่กำลังต่อต้านอย่างชัดเจน และไม่ได้เป็นเพียงแค่ "เด็กดื้อรั้นที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่" หรือแค่ "ไอ้พวกเด็กขี้ยา" เรื่องราวของ "Kyaw Kyaw" หนุ่มพม่าวัย 25 ปี ผู้อุทิศตนให้กับแนวคิดและวิถีกบฎแห่งพั้งค์ในเมืองย่างกุ้ง ท่ามกลางเหตุการณ์บ้านเมืองที่วุ่นวาย และระบบเผด็จการที่ห่วยแตก ความล้าหลังของการศึกษา และความขัดแย้งทางศาสนาของประชาชนทั่วไป สารคดีเดินเรื่องด้วยการสะท้อนสภาพสังคมในพม่าผ่านการใช้ชีวิตประจำวัน สลับกับการก่อตั้งวงดนตรีของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากวัฒนธรรมพั้งค์ Anarchist และ Street Punk จากต่างประเทศ สังเกตจากเสื้อวงที่ใส่อย่างเช่น Aus-Rotten, The Casualties รวมไปถึงการแสดงออกทางสัญลักษณ์เพื่อต่อต้านตำรวจอย่างชัดเจนเช่น Fuck The Cops และ A.C.A.B ซึ่งเป็นคำย่อของ All Coppers Are Bastards แปลว่า "พวกตำรวจแม่งระยำเหมือนกันทั้งหมด" (เป็นแนวคิดที่ว่าด้วยเรื่องตำรวจเป็นคนที่ไม่บริสุทธิ์ เอื้อประโยชน์ให้คนรวย กินส่วย รับสินบน สามารถเปลี่ยนสีได้ตามสภาพของเงิน) และเทิดทูนการกระทำของนางอองซาน ซูจี ที่เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวสมาชิกของ Pussy Riot วงพั้งค์ร็อคหญิงล้วนของรัสเซียที่ออกมาเล่นดนตรีแสดงทัศนคติต่อการเมือง (Kyaw Kyaw คิดว่า นางอองซาน สนับสนุนเรื่องสิทธิมนุษยชน และให้อิสระกับพั้งค์ในการแสดงออกทางการเมืองจากข่าวนี้) พวกเขานั้นมีอุดมการณ์ที่ชัดเจนเพื่อต่อต้านระบบการเมืองการปกครองและพวกอนุรักษ์นิยมที่นำมาซึ่งการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รุนแรง การศึกษาที่ไร้ประสิทธิภาพ การพัฒนาประเทศที่ล้าหลัง ชาติพันธุ์ในแต่ละแคว้นที่ขัดแย้งและเป็นอุปสรรคต่อระบอบประชาธิปไตย ค่าแรงของประชาชน รวมไปถึงความเข้าใจในพุทธศาสนาที่ผิดและบิดเบือนจากคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์ ซึ่งพวกเขาไม่สามารถทนการกดขี่โดยระบอบเผด็จการทางทหารและการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รุนแรงได้อีกต่อไปแล้ว (เป็นการกล่าวรวมถึงทุกเชื่อชาติ ทั้งเชื้อสายพม่า และเชื้อชาติอื่นๆในประเทศ แม้กระทั่งการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคนพุทธที่กระทำต่อมุสลิมโรฮิงญา ) ต่อมาปัญหาและสิ่งสำคัญที่ Kyaw Kyaw กำลังเผชิญคือการสืบทอดวัฒนธรรม "พั้งค์" สู่ "คนพั้งค์"ยุคต่อไป ซึ่งเขากำลังพบว่าเด็กใน Generation ถัดมานั้นที่มีความฝันที่จะเป็นพั้งค์ หรือทำวงพั้งค์ แต่ไม่ได้มีแนวคิดที่จะต่อสู้แบบพั้งค์เลย พวกเขาหลงเสน่ห์ของพั้งค์ในรูปแบบของ Fashion (การแต่งตัว, ทำหัวหนามหรือโมฮอว์ก, และทำวงพั้งค์ โดยที่ไม่ได้มีจิตวิญญาณความเป็นกบฎ หรือต่อต้านสิ่งใดเลย พวกเขาทำมันเพียงแค่คิดว่าพั้งค์นั้นเท่ห์ และดูเจ๋ง) ซึ่งอาจจะทำให้วัฒนธรรมพั้งค์ดูแตกต่างออกไปจากสิ่งที่เป็นอยู่โดยสิ้นเชิง กระนั้นเรื่องราวทั้งหมดยังคงเป็นแค่ 'ความคิดเห็นเพียงด้านเดียว' จากฝ่ายของ Kyaw Kyaw เท่านั้น Passion V.S. Fashion หลังจากการฉายหนังสารคดีเสร็จ ทีมงานได้ทำการยกแคนวาสขึ้น ปรากฏเป็นเครื่องดนตรีเตรียมพร้อมอยู่เบื้องหลังสำหรับการแสดงสดของ "The Rebel Riot" (วงของ Kyaw Kyaw ตัวแสดงหลักในเรื่อง My Punk Is Buddha ) ที่แม่งแค่เสียงซาวด์เช็คจากกีต้าร์ที่แตกสนั่นก็ทำให้บรรดา Maniac และผู้ชมแทบทั้งหมด (ย้ำว่าแทบทั้งหมดจริงๆ ไม่ใช่แค่คนที่ใส่เสื้อวงพั้งค์หรือเมทัลเท่านั้น) ต่างลุกเฮ กรีดร้อง และประดาหน้ากันเข้ามาล้อมวงไม่ให้หนีไปไหนได้อีกแล้ว (เหมือนเป็นการบ่งบอกว่ามึงต้องเล่นแล้วล่ะ ฮา) ทางวงก็ไม่พูดพล่ามมาก กล่าวคำทักทายเสร็จก็ขึ้นเพลงแรกทันที บรรยากาศในช่วงแรกโคตรกระท่อนกระแท่น เนื่องจาก Oakar (มือเบสของวง) มันส์ในอารมณ์มาก เขาโยกกันอย่างรุนแรง และทำให้แจ๊คเบสหลุดอยู่บ่อยๆ (Oakar บอกกับผมตอนคุยกันว่าช่วงหลังว่าเขาต้องยืนเล่นนิ่งๆ เพราะกลัวสะดุดแจ๊คเบสหลุดอีก ฮา) แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด เพราะหลังจากขึ้นเพลงที่ 2 เหล่า Maniac ทั้งหลายเริ่มตั้งวงกันย่อมๆ และขยายวงกันเรื่อยๆจนกินพื้นที่หน้าเวทีทั้งหมด ทุกคน (รวมทั้งผู้เขียนด้วย) ต่างผลัดกันแท็ค และวิ่งชนกันตามธรรมเนียมของ Punk/ Hardcore จนถึงเพลงสุดท้ายที่เหมือนท่านผู้ชมทั้งหลายยังไม่อยากจบ ต่างโห่ร้อง Encore โดยพร้อมเพรียง ซึ่งทางวงก็สนองทันทีด้วยเพลง Can't Control อีกทั้งยังกล่าวกับผู้เข้าชมว่า พวกเรานี่แม่งเมามันส์ในดนตรีจนไม่สามารถควบคุมตัวเองกันได้แล้วโว้ยยย !!! หลังจบงานก็ปวดเมื่อยตัวกันไปตามระเบียบเรียบร้อยโรงเรียนพั้งค์ !!!! YEAHHHH !!!!! ตารางฉายหนังและกำหนดการณ์ในงานนี้ (ซึ่งตารางเลทจากเรื่องแรกไปประมาณ 20 นาทีครับ) และสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนประหลาดใจสิ่งหนึ่งแม่งคือพ่อค้าขายไข่เจียว กับ Fish & Ships ที่สามารถทอดอาหารให้สุก ทั้งๆที่แม่งไม่มีไฟส่องเลยได้อย่างไร ?? เป็นการพิสูจน์ความเชี่ยวชาญในการทำอาหารได้พอสมควร (หรือป่าววะ ฮา) ขอบคุณไปยังทีมงานผู้จัดอย่าง Speedy Grandma, JAM, Brigde และเจ้าของสถานที่อย่าง Gallery Ver ด้วยครับ ปล. วงเล่นมันส์ดี ผู้เขียนดิ้นในงานจนถึงกับเสื้อขาดเลยฮะ Written: Arkat Vinyapiroath
0 Comments
Leave a Reply. |
เกี่ยวกับผู้เขียน :
กลุ่มคนบ้าผู้หลงไหลในสรรพสำเนียง วรรณกรรม ศิลปะ จิตศาสตร์ และความไม่สมบูรณ์แบบที่เกิดขึ้นบนโลก Categories
All
CD, Vinyl, Tape, LP, Gamaphone, Phono, Cassette, Harsh Noise Tape, Harsh Noise CD, Harsh Noise Vinyl, BKK CD, Bangkok CD, Bangkok Experimental CD, Thai Experimental CD, Thailand Experimental CD, Thai Vinyl, Thai LP, Thai Phonography, Thai gamaphone, Thai Weird, Shirt, Tee, Noise Shirt, Noise tee, Harsh Noise Tee, Harsh Noise T-shirt, T-Shirt, platter,
Moontone Records, Moontone, MoontoneRecord, MoontoneRecords, Moontone Label, Independent Label, D.I.Y. label, D.I.Y. Records, Noise label, Noise music label, Noise records, Noise Studio, Noise Artดนตรีทดลอง, สยามทดลอง, น็อย, น็อยส์, น็อยซ์, น้อยส์, น๊อยซ์, น้อยซ์, น๊อยส์, นอยส์, นอยซ์, นอย, อวองการ์ด, อาวองการ์ด, อวอง การ์ด, อาวอง การ์ด, น้อยส์ทดลอง, เสียงน้อยส์, เสียงรบกวน, สรรพสำเนียง, อาฆาต วิญญาณ์พิโรธ, มูนโทน, มูนโทน เรคคอร์ด, มูนโทนเรคคอร์ด ซีดี, แผ่นเสียง, เทป, เทปคลาสเส็ท, เทป, รีวิว, ขาย, ขายของ, ถูก, ราคาถูก, ขายถูก, เสื้อยืด, เสื้อแขนสั้น, เสื้อวง Experimental, Experimental Music, Thai Experimental Music, Thai Experimental, Bangkok Experimental, Bangkok Experimental Music, Thailand Experimental Music, Thailand Experimental, Thai Noise, Thai Noise Music, Thailand Electronic, Thailand Harsh Noise, Bangkok Electronic, BKK Noise, BKK Experimental, BKK Harsh Noise, Japanoise, Thai Weird, Thai Creepy, Creepy Bangkok, Creepy Asia, Creepy Music, Weird Thai, Weird Bangkok, Weird Thailand, Review noise, Noise Market, Noise discussion, Noise circuit, Harsh Noise Style, Synthesizer, Crazy Synthesizer, Art, Contemporary, Contemporary Art, Surreal, Dada, Surreal Music, Surreal Art, Surreal Contene, Surreal pic, photo, photography, surreal photography, surreal music, dada noise, white noise, unusual, disguised, uncommon, strange, unusual, odd, deformed, eccentric, erratic, exceptional, grotesque, exceeding, exceptional, exotic, extraordinary, paradoxical, deformed, eccentric, erratic, exceptional, grotesque, abnormal, offbeat, unusual, irregular, uncommon, atypical, casual, shit, bastard, fuck, punk, crust, anti, crust punk, regime the state, Expermental Rock, Noise Rock, Rock Music, Band, Gamnad737, GAMNAD737, Silence((O)))), Silence ((O))), Acidwall, Acidmoon, HNW, Noise wall, Harsh Noise Wall, Static Noise, Spam Noise, Power Electronics, Industrial, Neofolk, Noisewall |